อนุทิน ลั่นเดิมพันเก้าอี้ มท. ถ้าถูกปรับ ยอมทิ้งโควต้าภูมิใจไทย

17 มิถุนายน 2568 เวลา 09.40 น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์รายการ Nation วิเคราะห์ข่าว เกี่ยวกับประเด็นการถูกกกต.เรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว. รวมถึงการปรับ  ครม.ในส่วนของเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย(มท.)

 

เมื่อถามว่า ในคดี ฮั้ว สว.เป็นเรื่องของการเมืองไหม นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่อยู่ในฝั่งการเมืองก็ชัดเจน เนชั่นก็ทราบดีอยู่แล้ว ทราบดีกว่าผมอีก

 

เมื่อถามว่า เมื่อวานมีโอกาสพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รายงานเรื่องอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า รายงานเรื่องฮั้ว สว. รายงานทั้งหมดที่มาที่ไป ใครอยู่เบื้องหลัง ใครทำอะไร รายงานทุกอย่างให้ทราบ นายกฯทราบว่ามีความเป็นไปยังไง

ถามว่า ทำไมมีชื่อ นายเนวิน ชิดชอบ นายไชยชนก ชิดชอบ และนายอนุทิน ที่ถูกเรียกคดีฮั้ว สว. นายอนุทิน กล่าวว่า คนดำเนินการเป้าหมายคือยุบพรรคภูมิใจไทย ถ้าไม่เล่นงานกรรมการบริหารก็ยุบพรรคไม่ได้ แต่อย่างที่ผมเรียน พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยทำผิดกฎหมาย รัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการได้มาของ สว. ตัวผมเอง ก็ได้ออกคำสั่งประกาศชัดเจนว่า ห้ามผู้บริหารของพรรค สส. รมต.พรรค ไปยุ่งเกี่ยว ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว แต่ความพยายามมุ่งทำลายก็ยังมีอยู่ คงไปคิดว่าพรรคภูมิใจไทยมีอิทธิพลต่อ สว. และทำให้เกิดความไม่สะดวกหลายๆอย่าง สำหรับคนที่ต้องการประโยชน์ใดๆจาก สว.ก็ไปทึกทักว่า ภูมิใจไทยเป็นตัวขวางอยู่ ก็เลยต้องทำลายตรงนี้ไป

 

 

ถามว่าตอนนี้ทุกอย่างพุ่งเป้ามาที่นายอนุทิน ทั้งคดีฮั้ว สว. เขย่าเก้าอี้รมว.มหาดไทยตลอดเวลา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เป็นรัฐบาลผสม และไม่มีใครอยากให้มหาดไทยกับใครหรอกครับ ทุกคนก็อยากเก็บเอาไว้ แต่รูปแบบรัฐบาลผสมก็อย่างนี้แหล่ะ คำว่าชิงมหาดไทยสำหรับพวกผมก็ทราบมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ากระทรวงแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แปลกประหลาดใจอะไร เพียงแต่เป็นรัฐบาลผสม เป็นเรื่องของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องนายกรัฐมนตรี กับตัวรัฐมนตรี ไม่ใช่สับเปลี่ยนกระทรวง เพราะความเหมาะสม แต่เป็นข้อตกลงที่ฟอร์มรัฐบาลมา ลึกกว่านี้ก็คือ เราได้รับเชิญจากรัฐบาลเพื่อไทยให้มาร่วมงานภายใต้เงื่อนไขนี้(ดูแลมหาดไทย) เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นการตกลง และเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ถามว่า เงื่อนไขภูมิใจไทย 69 เสียง ยังเป็นพรรคร่วมเหมือนเดิมไหม นายอนุทิน กล่าวว่า ผมพูดไปแล้ว ตามที่ผมพูด พูดไปบ่อยๆ เด๋ยวเหมือนเป็นการท้าทายไม่ให้เกียรติกัน สัปดาห์ที่แล้วพาดหัวกันเต็มทุกฉบับ นักข่าวถามนำไง แต่อยู่เฉยๆผมจะออกมาประกาศ อย่ามาเปลี่ยนผม เราไม่ทำอยู่แล้ว

 

เมื่อถามว่า คุยกับสมาชิกพรรคหรือยังหากต้องเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เสียงปรบมือทั้งพรรค ไม่รู้แปลว่าอะไร ผมเล่าให้เขาฟังว่า ผมได้พูดอย่างนี้ไปแล้ว ท่าทีเป็นแบบนี้จะขอเป็นมติจากพรรคขอให้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคมีอำนาจตัดสินใจเรื่องพวกนี้ ท่าทีถ้ามีลักษณะแบบนี้ เราก็คงต้องขอถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนจะพูดอะไรต่อท่านชาดา ยกมือบอกก่อนพูดอะไรต่อขอให้ทุกท่านปรบมือตอบรับแนวทางของพรรคภูมิใจไทย มันก็ชัดเจนแล้ว ว่า สมาชิกพรรคทุกคนให้การสนับสนุนแนวทาง ถ้าเกิดมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น

 

เมื่อถามว่า ยืนยันชัดเจนว่ามหาดไทย ถ้าไม่มีภูมิใจไทยแบบนี้ แปลว่ายังพอมีช่องทางการพูดคุยไหม นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อวานไม่ได้คุยกับนายกฯเรื่องปรับ ครม. ผมไปกราบเรียนรายงานท่านนายกฯเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดและเรื่องกระบวนการกล่าวหากรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ให้ท่านได้ทราบในฐานะ หัวหน้ารัฐบาล

 

เรื่องของการปรับ ครม. ต้องเป็นเรื่องพรรคคุยกับหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เรื่องนายกฯคุยกับ รมต.เจ้ากระทรวงใดๆ อย่างที่เรียนเป็นข้อตก ถ้าจำได้ตอนที่เลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล ใช้เวลาเป็นเดือนในการร่างเอ็มโอยู ส่วนของเราเนื่องจากเป็นพรรคที่ตั้งกันมานาน คุยกันมานาน เราไม่มี เอ็มโอยู เรามีความเชื่อถือกัน มันสำคัญกว่าการเซ็นเอ็มโอยู ไม่งั้นตอนไปการฟอร์มรัฐบาลต้องใช้เวลาอีก 3 เดือนในการร่างเอ็มโอยู ปิดทุกจุดเลย มันก็ไม่ดีหรอกครับ ความเชื่อใจเชื่อมันให้เกียรติกันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

ถามว่า ยืนยันว่าไม่ได้นั่ง รมว.มหาดไทย จะไปฝ่ายค้านแล้วทุกคนปรบมือ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ว่างไป เราก็ไปทำหน้าที่ที่เหมาะสมตามบทบาทสถานการณ์ ถ้าอยู่กันต้องอยู่กันด้วยความเชื่อมั่น เชื่อใจ ร่วมมือซึ่งกันและกัน ถ้าอยู่กันด้วยความแก่งแย่งกัน มันอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ผลอยู่ที่การพูดคุย ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆ

 

"นี่ยิ่งกว่าสัญญาลูกผู้ชายอีก เพราะเป็นสัญญาลูกผู้หญิงด้วย ศักดิ์สิทธิ์กว่า"นายอนุทินกล่าว