17 มิถุนายน 2568 หลายฝ่ายประเมินตรงกันว่า รัฐบาลฮุน มาเนต กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศ จากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ความเหลื่อมล้ำ และการขยายตัวของธุรกิจผิดกฎหมาย อาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีข้อมูลระดับนานาชาติบ่งชี้ว่า ผลประโยชน์บางส่วน หรือส่วนใหญ่จากธุรกิจเหล่านี้ เกี่ยวข้องพัวพันกับคนใกล้ชิดของผู้มีอำนาจการเมืองในกัมพูชา
เรื่องนี้ไม่ใช่ “ข้ออ้างลอยๆ” แต่มีรายงานและข้อมูลที่รวบรวมโดย "ยูเอ็นโอดีซี" หรือสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ วิเคราะห์เกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ และอาชญากรรมไซเบอร์ ตลอดจนกิจกรรมหลอกลวงออนไลน์ และทำแผนที่ “ศูนย์กลางการหลอกลวงของโลก” หรือ scam centers ออกมา
หากดูตามแผนที่จะเห็นว่า ตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีวงกลมสีฟ้า ซึ่งแสดงถึงที่ตั้งของศูนย์ฉ้อโกงทางไซเบอร์ ความน่าสนใจก็คือ ศูนย์กลาง หรือ แหล่งใหญ่ที่สุด เยอะที่สุด กลับไม่ใช่ในเมียนมาอย่างที่เราเข้าใจ แต่กลายเป็น "กัมพูชา" แผนที่ของ "ยูเอ็นโอดีซี" ทำไว้ และปรากฏอย่างชัดเจน
โดย วงกลมสีฟ้า หรือแหล่งหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ อยู่ที่...
ประเด็นที่ทั่วโลก ชาติมหาอำนาจ และ "ยูเอ็นโอดีซี" ให้ความสนใจก็คือ ธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งเป็น “ศูนย์กลางหลอกลวง” หรือ scam centers เหล่านี้ มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจการเมืองใน "กัมพูชา" อย่างชัดเจน
เช่น กลุ่มบริษัท LYP Group ที่ได้สัมปทานเขตเศรษฐกิจเกาะกง ของกัมพูชา มีบริษัทในเครือ เช่น บริษัทเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ทคลับ จำกัด , บริษัท เอ็กซ์ปอร์ต-อิมปอร์ต จำกัด , กลุ่มบริษัทนี้ถูกสหรัฐคว่ำบาตร และขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น ค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงาน และฉ้อโกงออนไลน์
นอกจากนั้น หลานชายของ "สมเด็จฮุนเซน" ยังถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลโกงออนไลน์ในตลาดมืด ยักยอกเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี 2021
หลานชายคนนี้ยังมีบทบาทสำคัญใน “ฮุยโอเน่ กรุ๊ป” ที่เราเคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่า เกี่ยวข้องกับธุรกรรมในตลาดมืดและฟอกเงินใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ พัวพันกับการโจรกรรมทางไซเบอร์ จนถูกขึ้นบัญชีดำจากสหรัฐฯ รวมถึงชาติตะวันตก ถูกตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบการเงินของสหรัฐ และห้ามบริษัทในสหรัฐเปิดบัญชี หรือทำธุรกิจติดต่อกับ “ฮุยโอเน่ กรุ๊ป”
นี่คือตัวอย่างที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเรียกร้องกัมพูชา และรัฐบาลไทยว่า อย่าปล่อยให้ "กัมพูชา" นำข้อพิพาทไปร้องแค่ศาลโลก แต่ควรนำปัญหาที่กัมพูชาซุกไว้ใต้พรม และฉาวโฉ่ไปทั่วโลกนี้ ไปยื่นคำร้องให้ "ยูเอ็น" จัดการ โดยเฉพาะธุรกิจสีเทา คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และศูนย์กลางการหลอกลวงของโลก เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก แต่ผู้ยิ่งใหญ่ในกัมพูชากลับได้ผลประโยชน์ ร่ำรวยมหาศาล